ไม่มีเสียงเชียร์ เพราะเหตุว่าไม่มีผู้ใดรู้จัก ไมค์ไทสันรวมทั้งเขาเริ่มทำตามอย่างสิ่งที่เขาเล่าทั้งหมดทุกอย่าง

ไม่มีเสียงเชียร์ การต่อยคราวนี้ไม่มีความต่างจากวัยเด็กเลย เขารู้ดีว่าเขาจะชนะ เพียงแต่ว่ามันเป็นปกติของไฟต์แรกที่จะจำต้องเขินกันบ้าง … เพราะว่าการเปิดหัวที่ดีนำมาสู่ทางที่ผ่องใส รวมทั้งถ้าเขาเปิดหัวแพ้ เขาก็บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องชำระเงินเพื่อขึ้นสังเวียนในปริมาณที่แพงกว่าเดิม

แทนที่จะเป็นฝ่ายทำเงินเสียเอง “คืนนั้นก่อนขึ้นสังเวียนผมเขินมากมายรวมทั้งผมมั่นใจว่ามันเป็นธรรมชาติของคนเราในการทำอะไรสักอย่างเป็นครั้งแรก ในใจผมเชื่ออยู่ตลอดว่าผมจะเอาชนะไอ้หมอนั่นได้ ยิ่งเมื่อขึ้นเวทีมองเห็นหน้าแล้วก็ดูเข้าไปในตาเขา ความเขินอายที่มีก็ไม่เหลืออีกเเล้ว”

ไทสัน ว่าถึงการต่อยกับ เมร์เซเดส ที่เป็นรุ่นพี่เขา 1 ปี จะเรียกว่าการปะทะกันก็อาจจะผิดนั้นเนื่องจากว่าไทสัน บอกยี่ห้อของตนตั้งแต่ไฟต์แรก ระฆังดัง เดินเข้าพบ รวมทั้งรัวหมัด “ซ้าย ขวา ซ้าย” รัวๆจนถึงนับไม่ทันว่าเขาจ้วงไปทั้งหมดทั้งปวงกี่หมัดใน 10 วินาทีแรก จัดหนักศึก

เมร์เซเดส หน้าเหวอและก็เปลี่ยนท่าทีโดยทันที จากที่เคยจะตั้งอกตั้งใจบุกเปลี่ยนไปเป็นว่าเขาจำเป็นต้องเล่นคอยจังหวะ เนื่องจากรู้ดีว่าไทสัน หนักและก็ไวกว่ามากมาย เพียงแค่ต่อจะให้เอาแท็คติกจากไหนมากางตำราเรียนก็อาจไม่ไหว

ไทสันจิ้มหมัดซ้ายใส่หน้าในจังหวะที่ เมร์เซเดส กำลังจะเดินเข้าพบ โบ๊ะเดียวเพียงแค่นั้น เขาถอยกราดไปตั้งตัว แม้กระนั้นไม่ทันเเล้ว …ไทสัน ราวสัตว์นักล่าที่ทราบว่าเมื่อศัตรูกำลังกลัวเขาจะสิ้นสุดโดยทันที

ไทสันเดินประชิดต่อย เมร์เซเดส จนถึงตัวงอชิดกับเชือกและไม่หยุดการฟันง่ายๆทุกๆการต่อยของไทสัน ทะลุการ์ดจนกระทั่ง เมเซร์เดส เดินเอียง เสียงผู้ชมที่มารอดูคู่เอกเริ่มจะดังขึ้นเเล้ว เนื่องจากไม่มีผู้ใดมีความรู้สึกว่ามวยเด็กคู่นี้จะมีของดีมาให้มอง

ถ้าหากเป็นมวยไทยเจ็ดสีก็จะต้องเรียกว่าผู้ชมเริ่มออกหน้าแข้งออกขาตามจังหวะที่ไทสัน ต่อย เสียง “เฮ้! เฮ้! เฮ้!” ตามปริมาณหมัดดังขึ้นจากแฟนมวย ในเวลานี้ไม่ใช่การต่อยแล้ว แม้กระนั้นมันเสมือนเป็นการเอนเตอร์เทนผู้ชมมากยิ่งกว่า ตั้งการ์ดหนาแค่ไหนก็เอาไม่อยู่

เมร์เซเดส ลงไปนอนให้ผู้ตัดสินนับ แม้ว่าจะยืนขึ้นมาได้แต่ว่าก็ถึงตอนที่ผู้ตัดสินนับถึง 10 พอดิบพอดี เขาจับไปที่กระดูกซี่โครงแล้วก็เจอวันหลังว่ากระดูกซี่โครงของเขาหักเป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย พูดได้ว่าไฟต์นั้นเป็นการเปิดตำนานของไทสัน เลยก็ว่าได้

โปรโมเตอร์ต้องใจ ชำระเงินเขาเพิ่มเติมอีก 500 เหรียญ เขาแบ่งให้ผู้ฝึกสอนปริมาณหนึ่ง รวมทั้งเอาเข้าแบงค์ไป 350 เหรียญ พกประจำตัวไว้อีก 100 เหรียญ … ได้ต่อย ได้ระบายอารมณ์ แถมยังได้เงินอีกด้วย นี่เป็นต้นไม้ที่เลือกโตได้ถูกกระถางอย่างแท้จริง

ไม่มีเสียงเชียร์

ไม่มีเสียงเชียร์ ชิงชนะเลิศโลกไปเลยเเล้วกัน

แม้ว่าจะเป็นการต่อยที่ไม่มีพนันอะไรเยอะมาก แม้กระนั้นไทสัน เปิดโลกมวยเฮฟวี่เวตไปเป็นระเบียบเรียบร้อย วิดีโอการต่อยของเขาโดนส่งไปทั่วอเมริกา แล้วก็ผู้รายงานข่าวสายมวยผู้คนจำนวนมากเริ่มจะพอใจเรื่องราวของ “ไอออน ไมค์” ขึ้นมาเเล้ว

ไทสันมิได้จบความมันเพียงแค่ที่ตรงนั้น แต่ละไฟต์ที่ตามมาไทสัน เริ่มโชว์ท่าไม้เด็ดออกมา ในไฟต์ที่ 2 ที่ต่อยกับ เทรนท์ ซิงเกิลตัน เขาอาชนะในยกแรกได้อีกรอบ แล้วก็ “ฮุกซ้ายในตำนาน” ได้เปิดเผยสู่สายตาชาวโลกในไฟต์นี้ ตลอดมาด้วยไฟต์ที่ 3 กับ ดอน ฮัลพิน ที่น็อกได้ในยกที่ 4 แม้ว่าจะตึงมือไปบ้าง

แต่ว่าก็เป็นการโชว์ทีเด็ดอีกชุดที่ชื่อว่า “พีค อะ บู” สไตล์ ซี่งเป็นท่าที่ไทสัน เอาไว้ใช้เล่มเกมรับผสมเกมบุก ลักษณะเป็นใช้การเอียงตัวหลบหมัดคู่ปรับ แล้วก็ใช้ประโยชน์จากการเบี่ยงตัวนั้นเสริมแรงใส่หมัดของตนแทนที่จะหลบเฉยๆแปลงเป็นการเหวี่ยงกำปั้นด้วยองศาที่กว้างกว่าเดิม

ซึ่งท่านี้แปลงเป็นซิกเนเจอร์ของไทสัน ที่โลกจำได้มากที่สุดเลยก็ว่าได้ไทสัน ปล่อยของแล้วก็โชว์ความอึดในแบบเหนือมนุษย์ปี 1985 เขาขึ้นสังเวียนทั้งสิ้น 15 ไฟต์ ระหว่างที่ปี 1986 เขาขึ้นสังเวียนอีก 11 ไฟต์ พูดได้ว่านักมวยปัจจุบันเปรียบเทียบไม่ติดอย่างยิ่งจริงๆ ค่าถัวเฉลี่ยการต่อยมากยิ่งกว่า 1 เดือนต่อ 1 ไฟต์ด้วย

ในขณะนักต่อยอย่าง ฟลอยด์ เมย์เวทคุณร์ จูเนียร์ ในตอนที่ยังไม่รีไทร์นั้น ปีหนึ่งจะขึ้นสังเวียนปกป้องแชมป์สักไฟต์ โดยเหตุนั้นพวกเราจะมองเห็นได้ถึงความสามารถที่สมบุกสมบันของไทสัน และก็ความเป็นปีศาจได้กระจ่างแบบสุดๆ ข่าวมวย วันนี้

โดยในไฟต์ที่ 11 ของปี 1986 เป็นไฟต์ที่ส่งเขาเป็นเเชมป์โลก ในไฟต์นั้นเขาจำเป็นจะต้องพบกับ เทรเวอร์ เบอร์บิก เเชมป์โลกที่มีฝีมือยอดเยี่ยมเท่าที่ไทสัน เคยพบมาณ ตอนนั้น โดยตัวไทสัน เลือกซื้อเกมจิตวิทยาอีกที ด้วยการยินยอมจ่ายค่าปรับด้วยการใส่กางเกงที่มีสีดำ ถึง 5,000 ปอนด์

เพราะว่าในตอนแรกข้างจัดได้ห้ามไว้เนื่องจากให้สิทธิ์เบอร์บิกที่เป็นแชมป์ได้เลือกสีกางเกงก่อน สื่อพูดว่านี่จะเป็นการวินิจฉัยของช่วงมวยเฮฟวี่เวต ถ้าเกิด เบอร์บิก ชนะ แปลว่านักมวยแบบใหม่อาจยากที่จะขึ้นมาเหนือน้ำได้ เพราะว่าไทสัน นับว่าเป็นมวยยุคสมัยใหม่ที่เก่งที่สุดเเล้ว

ตรงข้ามถ้าหากไทสัน ชนะ นี่จะเป็นไฟต์ที่นักมวยรุ่นก่อนจำต้องเห็นด้วยเรื่องจริงว่า คลื่นลูกใหม่กระหน่ำพวกเขาเเล้วแล้วก็ยากที่จะทวงคืนได้ถ้าเกิดปลดปล่อยให้ไทสัน เป็นเเชมป์โลก ศึกนี้ก็เลยถูกเรียกว่า “จัดจ์เมนต์เดย์” หรือ “วันตัดสินคดี ” นั่นเอง

ไทสันแสดงตัวเช่นเดียวกับบิดามดดำปกคลุมหน้าปกคลุมตา รวบรวมสมาธิในห้องแต่งตัว แล้วก็เดินขึ้นมาด้วยสายตาอย่างเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะพบเเชมป์โลกหรือเด็กอายุ 18 ปี ความนึกคิดของไทสัน เป็นขยี้แค่นั้น …

หากแม้เเต่ เบอร์บิก ที่เพียรพยายามมองตาสู้แล้วก็แสดงตัวว่าไม่กลัวไทสัน ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแแปลงผลที่ได้รับจากการแข่งขันได้

ไม่มีเสียงเชียร์

เบอร์บิก โดนต่อยตั้งแต่เริ่มยก 1 รวมทั้งตั้งตัวไม่ทันกับเด็กนรกอย่างไมค์ไทสัน

เขามานะต่อต้านแล้วก็โต้ตอบตามดีกรีเเชมป์ แต่ว่าหมัดที่เหวี่ยงไปกลับไปโดนข้างหลังหัวไทสัน ซึ่งผิดกติกา … จะบังเอิญหรือตั้งมั่นไม่มีผู้ใดทราบ แต่ว่าการต่อยที่ข้างหลังหัวได้โอกาสที่จะนำมาซึ่งอาการมึนและก็เสียการทรงตัวได้

แม้กระนั้นไทสัน ที่หนอกคอกว้างเวิ้งราวกับโคมิได้กลัวอะไรเลย เปลี่ยนไปเป็นการทำให้ไทสัน บันเทิงใจกว่าเดิมด้วย ปวดเมื่อยก 2 เริ่มขึ้นไทสัน เดินเข้าพบโดยทันทีแล้วก็ตีใส่ เบอร์บิก ด้วยหมัดอันทรงอำนาจไม่รู้เรื่องจำนวนกี่ครั้ง

เบอร์บิก อุตสาหะปัดป้อง แม้กระนั้นเมื่อแหงนหน้ามาได้ก็จำเป็นต้องพบกับหมัดชุด 4 ดอก ตั้บๆๆๆ! เบอร์บิก เซจนถึงตกเวที แต่ว่าก็ยังมีสปิริตยืนขึ้นมาสู้ต่อ ซึ่งในความเป็นจริงเขาควรจะยอมยกธงขาวนั่นไปจะดียิ่งกว่า เพราะเหตุว่าเมื่อผู้ตัดสินนับเเปดแล้วก็เริ่มให้ต่อยต่อไทสัน ก็เดินเข้าพบรวมทั้งปิดเกมภายในระยะเวลารวมทั้งสิ้น 2.35 นาที ด้วยขวาที่ลำตัว

แล้วก็จบงานด้วยหมัดเด็ดตูดหีบอย่างฮุกซ้ายที่ศีรษะ เบอร์บิก ลุกแล้วล้ม ลุกเเล้วล้ม 2 รอบต่อเนื่องกัน … ผู้ตัดสินในวันนั้นมองเห็นมามากพอเเล้ว แล้วก็สั่งจบการต่อยให้ไทสัน แปลงเป็นแชมป์ยุคแรกด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปีเพียงแค่นั้น

เขาเป็นแชมป์โลกที่อายุต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่าจะเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่มีนักมวยผู้ใดกันทำลายสถิติดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นลงได้ “ผมมาตรงนี้และก็เชื่อมั่นมากมายว่าผมจะไม่ยินยอมลงจากเวทีถ้าหากไม่มีแชมป์โลก …

เมื่อใดก็ตามผมปาหวัด ต้องรับทราบเอาไว้ว่ามันอันตรายรวมทั้งแม่นมากมาย นาทีนี้ผมเป็นผู้ที่เก่งที่สุดในโลก และไม่มีคนใดที่จะเอาชนะผมได้” ไทสันกล่าวข้างหลังรับสายรัดเอวเเชมป์อย่างมากใหญ่ รวมทั้งแล้วต่อจากนั้นเรื่องราวต่างๆมากไม่น้อยเลยทีเดียวก็เกิดขึ้นกับเขา และก็ทำให้เขาเป็นขวัญใจคอมวยสากลชั่วกับชั่วกัลป์จนกระทั่งวันนี้

จากเด็กอายุ 14 ปี ที่ต่อยกับรุ่นพี่ที่อายุ 18 ปี แบบไม่เคยกลัว รวมทั้งการยินยอมทำทุกๆอย่างเพื่อได้ขึ้นไฟต์ชิงชนะเลิศโลกตั้งแต่อายุ 20 ปี แถมยังคว้ามันมาครอบครองได้เสร็จ … พวกเรามองเห็นอะไรจากหัวข้อนี้บ้าง ไมค์ไทสันเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงมากมาย แล้วก็ความสามารถพิเศษที่เขามีก็ถูกบ่มนิสัยต้องการถูกทาง

ซึ่งตอนท้ายไทสัน สอนให้ทุกคนมั่นใจว่า “ความหวาดกลัว” เป็นบ่อเกิดที่ความปราชัย “ความไม่มั่นใจ” จะปิดโอกาสที่จะทำให้ท่านเป็นผู้ชนะ

https://www.maxfighting.com/