ไทยเดินเครื่องเต็มสูบ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยเมืองไทยจัดแจงขับเคลื่อนเต็มสูบ

ไทยเดินเครื่องเต็มสูบ สนับสนุนมวยไทยไปสู่โอลิมปิกเกมส์ ข้างหลังคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ให้การรับประกันสมาพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาประเทศ หรือ “อิฟม่า” ไปแล้ว ชี้โอลิมปิก 2028 ที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวมาว่า เมืองไทยยังคงเดินหน้าสนับสนุนมวยไทยให้ใส่แข่งในโอลิมปิกเกมส์ในอนาคตให้ได้ โดยมีหวังว่าโอลิมปิกเกมส์ 2028 ที่นครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือในอีก 7 ปีด้านหน้า จะมีความน่าจะเป็นไปได้ เปิดเผยตระเตรียม

เนื่องจากว่าเมื่อเร็วๆนี้ มวยไทยได้รับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ให้เป็นกีฬาที่ได้โอกาสใส่ในโอลิมปิกแล้ว แต่ว่าสิ่งที่จำเป็นต้องทำเวลานี้หมายถึงการผลิตการยินยอมรับ รณรงค์ สร้างความสำนึกให้กับคนภายในแวดวงกีฬาได้ด้วยกันส่งเสริมกีฬาชกมวยไทยไปสู่โอลิมปิกในอนาคต

ไทยเดินเครื่องเต็มสูบ

ไทยเดินเครื่องเต็มสูบ ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทยกล่าวต่อว่าต่อขาน

โดยธรรมดาแล้วสำหรับในการที่จะสนับสนุนจำพวกกีฬาให้เข้าไปใส่อยู่ในกีฬาโอลิมปิก ควรต้องใช้เวลาขั้นต่ำ 7 ปี โดยเหตุนี้สำหรับในการดำเนินงานจะมองในตอนช่วงเวลา 7 ปีเป็นโอลิมปิก 2028 รวมถึงโอลิมปิก 2032 เป็นหลัก

สิ่งที่พวกเราจำต้องรีบทำขณะนี้เป็นการช่วยกันเผยแพร่กีฬาชกมวยไทยให้ออกไปสู่วงกว้างเยอะที่สุด ตอนนี้สมาพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาประเทศ (อิฟม่า) มีสมาชิกเกือบจะ 200 ประเทศแล้ว

ฉะนั้นการทำงานร่วมกับอิฟม่า ควรมีแผนงานที่สอดคล้องต้องกัน เพื่อกีฬาชกมวยไทยสามารถไปใส่อยู่สำหรับเพื่อการแข่งกีฬาต่างๆในระดับโลกให้เยอะที่สุด ก่อนหน้านี้บากบั่นใส่กีฬาชกมวยไทยให้เข้าไปอยู่ในกีฬาซีเกมส์หรือเอเชียนเกมส์ รวมทั้งกีฬาเอเชียนอินดอร์รวมทั้งมาเชียลอาร์ตเกมส์

ถึงแม้เอเชียนเกมส์ 2022 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ในปีถัดไป ไม่มีมวยไทยบรรจุชิงชัย แต่ว่าก็จะสนับสนุนต่อในเอเชียนเกมส์ 2026 ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ให้มีชิงชัยถัดไป เพื่อปูทางสู่โอลิมปิกในอนาคต ผลมวยวันนี้

ดร.ก้องศักด เผยอีกว่า สิ่งที่ไอโอซีเน้นถึงกีฬาที่กำลังจะได้ใส่ในโอลิมปิก จำต้องไม่แสดงถึงความร้ายแรง ต้องเป็นศิลปะการใช้ความรู้ความเข้าใจ ก็จึงควรทำให้กีฬาชกมวยไทยมีความปลอดภัยขึ้นในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการที่จะมีเครื่องคุ้มครองต่างๆมีข้อตกลงที่มีความแจ่มชัดขึ้น

มีการนึกถึงความปลอดภัยของตัวนักกีฬา รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับการคุ้มครองการใช้สารต้องห้ามทางกีฬา เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการที่นักกีฬาควรมีการตรวจสารต้องห้ามอย่างสม่ำเสมอตามกฎกว่ากล่าวของหน่วยงานต้านทานการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า)

“พวกเราจำเป็นจะต้องดำเนินงานร่วมกับผู้ที่มีการเกี่ยวข้องอีกทั้งสัมพันธ์กีฬาชกมวยที่เกี่ยวพันทุกชมรม, กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงศึกษาธิการ แล้วก็กระทรวงสาธารณสุข จำเป็นต้องดำเนินงานบูรณาการด้วยกัน

ส่วนในเวลานี้ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทยก็ได้จัดแจงเสนอเกิดเรื่องที่จะเข้าไปสู่การพินิจพิเคราะห์ของคณะกรรมการแผนการการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งในภาควิชานั้นประกอบไปด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวโยงกับเรื่องกีฬาทั้งมวล

ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงเป็นแผนงานที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ปฏิบัติงานอยู่ รวมทั้งยังมีคณะกรรมการขับ จัดว่าขณะนี้พวกเราก็มีระบุแผนงานที่กระจ่างแจ้งยาวไปอย่างต่ำๆ7 ปีแล้ว” ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทยกล่าว

ไทยเดินเครื่องเต็มสูบ

ลำธารมูลเล็กควงเมษาลิ่วตัดเชือกศึกหมัดชิงชนะเลิศปทท.

“ลำน้ำมูลเล็ก อ.อัจฉริยะ”หรือ ณัฐพล แสนกล้า นักมวยไทยเงินแสน ขึ้นอยู่กับทัพเรือ ออกอาวุธหมัดได้แจ่มแจ้งเป็นข้างชนะคะแนน อัศยุทธ พันนุมา นักต่อยจากชมรมกีฬาจังหวัดตรัง 5-0 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ ในรุ่น63กิโลกรัม

เหมือนกันกับ “เมษา” นิลาเถาวัลย์ เตชะสืบ นักต่อยกลุ่มชาติไทยดีกรีเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่ลงแข่งขันในสังกัดทัพเรือ รุ่น 57 กิโลกรัมหญิง โชว์ความเหนือชั้นเป็นข้างต้อนเอาชนะ อาร์เอสซี ภูวราภัทร มาชัย นักต่อย ศูนย์กีฬาชกมวยภาคกึ่งกลาง

ในยกที่ 2 การประลองมวยสากลชิงแชมป์ที่เมืองไทย รายปี 2564 ที่ศูนย์ฝึกหัดกีฬาแห่งชาติมวกเหล็ก จังหวัด สระบุรี ช่วงวันที่ 2 เดือนธันวาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา “ลำน้ำมูลเล็ก อ.อัจฉริยะ” หรือ ณัฐพล แสนกล้า นักมวยไทยเงินแสน ขึ้นตรงต่อทัพเรือ เจอ อัศยุทธ พันนุมา นักต่อยจากสัมพันธ์กีฬาจังหวัดตรัง

ผลปรากฎว่า ลำน้ำมูลใช้กระดูกมวยไทยที่เหนือกว่าเป็นข้างเดินบี้ ออกหมัดตรงเป้าแจ่มแจ้งเป็นข้างชนะคะแนน อัศยุทธ พันนุมา นักต่อยจากสัมพันธ์กีฬาจังหวัดตรัง 5-0 ผ่านเข้ารอบสองไปอย่างสบาย

ระหว่างที่ “น้องเมษา” นิลาวัลย์ เตชะสืบ นักต่อยเหรียญทองแดงเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ขึ้นอยู่กับทัพเรือ ลงแข่งขันรอบแรกในรุ่น 57กิโลกรัมหญิง เจอ ภูวราภัทร ม้าชัย (ศกม.ภาคกลาง) ผลปรากฎว่า นิลาวัลย์ ใช้ท่วงทีและก็ประสบการณ์ที่เหนือกว่าเป็นข้างชนะอาร์เอสซีในยกที่2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ

ด้าน “เพชรจีจ้า” นิลดา มีคุณ นักกลุ่มชาติไทยขึ้นอยู่กับทัพเรือ ชนะอาร์เอสซี ผ่องมณี อุดมคำ (ศกิโลเมตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เพียงยกแรก เหมือนกับ สมัคร แซ่หาญ นักต่อยกลุ่มชาติไทย ขึ้นอยู่กับทัพบก ชนะผ่าน อัครวิชญ์ อินสะอาด (ทัพอากาศ) ในรุ่น 49 กิโลกรัมผ่านเข้ารอบรองฯถัดไป

ผลรุ่นอื่นๆมีดังนี้ รุ่น 51 กิโลกรัมหญิง เมริกา เพิ่มสุวรรณ (ศกม.ภาคกลาง)แพ้ อาร์เอสซี ทิพย์สัจจา ยอดวารี (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ)ยกแรก ,ณัฐชา ศิลปกิจ(ทัพบก) ชนะอาร์เอสซี นฤมล ยิ้มสุด(ส.กฬ.จังหวัดตรัง)ยกแรก,

รุ่น 57 กิโลกรัมหญิง นภเกตุ ศรีสวัสดิ์ (ศกม.ภาคเหนือ) ชนะคะแนน กิตติยา นามไพร (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) 5-0,กนกวรรณ วิรุฬพัฒน์ (ศกม.ภาคอีสาน) แพ้แต้ม พรชิตา สีหาบุราณ(ทัพอากาศ) 0-5,

รุ่น 63 กิโลกรัมหญิง ศศิธร สายสิญจน์ (กองทัพอากาศ) แพ้แต้ม จีระพักตร ชินทร์คำ (ศกิโลเมตรภาคกึ่งกลาง) 0-5,รุ่น 69 กิโลกรัมหญิง จันทิดา สุขาเขิน(ทัพเรือ) ชนะอาร์เอสซี อมราวดี ถึงเสียบญวน (ส.กฬ.จังหวัดตรัง) ยกแรก ,

รุ่น 49 กิโลกรัมภานุวัฒน์ จันทระ (ศกิโลเมตรภาคเหนือ) แพ้แต้ม แสนชัย ห้องแก้ว (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) 0-5,รุ่น 63 กิโลกรัม บรรจง สินศิริ (ทัพบก) ชนะคะแนนแรง รวมธรรม (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) 3-2

https://www.fudoshinkan.org