ราวกับว่า แอรัมได้ย้ายตัวเองและสำนักงานของท็อปแรงค์ จากนิวยอร์กซิตี้ไปยังลาสเวกัสในปี 1986

ราวกับว่า เขาเริ่มเบื่อหน่ายกับชายฝั่งตะวันออก ภาษี และสภาพอากาศของมัน ลาสเวกัสมีแดดจัดในเดือนมีนาคม โดยมีอุณหภูมิสูงถึง 80 องศา นิวยอร์กอาจมีอากาศหนาวเย็น ฝนตก และมืดในเดือนเมษายน ด้วยต้นไม้เปลือยทำให้คุณคิดถึงส่วนต่าง ๆ ของประเทศที่ดอกไม้บานแล้ว

“ฉันไม่คิดว่าฉันจะยังทำในสิ่งที่ฉันทำอยู่ได้ถ้าฉันอยู่ที่นิวยอร์ก” แอรัมกล่าว เมื่อเขาย้ายมาที่นี่ครั้งแรกและเริ่มรับประทานอาหารที่ร้านปิเอโร่ เกือบทุกวัน พวกมาเฟียก็ยังนั่งอยู่ที่โต๊ะมุม บางครั้ง — บางทีอาจจะยังแสวงหาความรอดท่ามกลางความบาปทั้งหมด —

มีพระสงฆ์อยู่กับพวกเขา และถ้าคนเดียวกันมาในคืนติดต่อกัน พวกเขาจะต้องไปนั่งที่มุมอื่นเพราะกลัวว่าเอฟบีไอจะวางแมลงไว้ใต้โต๊ะของเมื่อวาน ในแง่นั้น ลาสเวกัสไม่ได้แตกต่างจากการชกมวยมากนัก “ตอนที่ฉันเริ่มทำธุรกิจครั้งแรก มันเป็นปัญหาร้ายแรงกับพวกมาเฟียที่เกี่ยวข้องกับกีฬาชนิดนี้” แอรัมกล่าว

“มองไปทางไหนก็มีแต่คนมาเฟีย” แอรัมจบการศึกษาจากโรงเรียนกฎหมายฮาร์วาร์ด และเป็นทนายความของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ฝูงชนรู้ดีจึงปล่อยให้เขาอยู่ตามลำพัง และตั้งแต่ที่อารัมบังเอิญไปชกมวย พวกมาเฟียก็อาจจะคิดว่าเขาคงอยู่ได้ไม่นาน

กีฬานี้เต็มไปด้วยซากศพของผู้ที่คิดว่าจะทำได้ แต่สุดท้ายก็พังทลาย “ตอนนั้นฉันไม่รู้ แต่นั่นเปลี่ยนชีวิตฉัน” แอรัมพูดถึงคดีที่พาเขามาชกมวย ปีคือปี 1962 โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดีเป็นอัยการสูงสุดของสหรัฐอเมริกา และฟลอยด์ แพตเตอร์สันและซันนี่ ลิสตันกำลังจะต่อสู้

เคนเนดีได้รับข้อมูลว่า “รอย โคห์นผู้โด่งดัง” ตามที่อารัมอธิบายไว้ กำลังส่งเสริมการต่อสู้และวางแผนที่จะนำเงินไปต่างประเทศ จากนั้นจึงจ่ายเงินให้แพตเตอร์สันในแผนการชำระเงิน นั่นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เคนเนดีให้คดีแก่อารัม ซึ่งต่อมาเป็นทนายความด้านภาษี

แอรัมยึดเงินได้เกือบ 5 ล้านดอลลาร์จากงานนี้ จากนั้นโคห์น ได้ให้การเป็นพยานเป็นเวลา 10 วัน เขาได้เรียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับธุรกิจมวยโดยผ่านทางนั้น แม้ว่าเขาจะไม่เคยดูการต่อสู้ก็ตาม “พวกเขามีการต่อสู้ในคืนวันศุกร์” แอรัมนึกถึงวัยเด็กของเขาในส่วน คราวน์ ไฮทส์ ของบรูคลิน

ราวกับว่า ส่วนหนึ่งเนื่องจากประสบการณ์ของเขากับโคห์น

ไม่กี่ปีต่อมา ในปี 1965 เมื่อ แอรัมทำงานที่สำนักงานกฎหมาย เขาได้รับการร้องขอให้ช่วยงานชกมวยอีกรายการหนึ่ง ที่นั่นเขาได้พบกับคลีฟแลนด์ บราวน์วิ่งกลับจิม บราวน์ บราวน์บอก แอรัมว่าเขาควรเป็นโปรโมเตอร์แทนที่จะเป็นทนายความ

แอรัมบอกเขาว่ามีนักมวยเพียงคนเดียวที่ควรค่าแก่การส่งเสริม – มูฮัมหมัด อาลี – และตั้งแต่เขาถูกพาตัวไป เขาก็ไม่สนใจ บราวน์กล่าวว่าอาลีไม่มีผู้ก่อการและเขาสามารถจัดการประชุมได้ “ทำไม ฟ— อาลีถึงอยากคุยกับฉัน” แอรัมคิดลังเลที่จะเชื่อบราวน์

แต่ประมาณหนึ่งเดือนต่อมา การประชุมก็เกิดขึ้น ไม่นานหลังจากนั้น สิ่งที่เขาเรียกว่า “ประสบการณ์เหนือจริง” แอรัมได้พบกับเอลียาห์ มูฮัมหมัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของอาลี “เราเริ่มพูดคุยกันเรื่องธุรกิจที่น่าสนใจมาก ๆ ประมาณ 20, 30 นาที จากนั้นตาของเขาก็จะเหลือบไปมอง”

แอรัมกล่าวถึงผู้นำที่ล่วงลับไปแล้วของชาติอิสลาม “เขาจะเริ่มต้นด้วยปีศาจตาสีฟ้าลงมาในยานอวกาศของเขา แต่ฉันปล่อยให้มันผ่านไปแล้วเราก็คุยกันเรื่องธุรกิจกันต่อไป” การสนทนานั้นจบลงด้วย แอรัมในฐานะทนายความและผู้ก่อการของอาลี ในฐานะโปรโมเตอร์

แอรัมจะจ่ายให้อาลี 50% ของกำไรขั้นต้นของการต่อสู้แทน 40% ที่เป็นมาตรฐานในขณะนั้น นั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างอาลีกับอารัม และเนื่องจากไม่มีวิธีใดที่จะเข้าใจมวยได้ดีไปกว่าการส่งเสริมอาลีผู้เหนือธรรมชาติ แอรัมไม่เคยจากไปหลังจากนั้น

“คงจะวิเศษมากถ้า เครเซวสกี้คว้าแชมป์ได้ตั้งแต่ออกจากทีม” แอรัมกล่าว โดยที่ยังคงกินสเต็กภายในที่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของลาสเวกัสซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ดุคกำลังเล่นเท็กซัสเทค ในสวีท 16 ของการแข่งขัน เอ็นซีเอเอ ผลมวยวันนี้

เขาและโค้ชของ ปีศาจสีน้ำเงิน ไมค์ เครเซวสกี้ เป็นเพื่อนกัน ไม่ว่า ดุคจะคว้าแชมป์ระดับประเทศหรือตกรอบ แอรัมจะโทรหาเขาด้วยความยินดีหรือเพื่อยกระดับจิตวิญญาณของเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ แอรัมตะโกนเรียก ดุคตลอดอาหารค่ำ

เกมปิดทำให้เขาวางมีดและส้อมลงเพื่อที่เขาจะได้ดูการครอบครองที่ทำลายเส้นประสาทแต่ละครั้ง เมื่อเท็กซัสเทค ตี 3 ตัวชี้โดยเหลือ 13.2 วินาที แอรัมก็เหลือเชื่อ ราวกับว่าเขาแทบไม่อยากเชื่อทีมจากลับบ็อก รัฐเท็กซัส อาจจะเป็นทีมที่ยุติอาชีพการงานของเครเซวสกี้

“เชื่อได้เหรอ” เขาพูดขณะที่ เรดเรดเดอร์ส ดึง ดุคภายในสองจุด “นั่นเป็นช็อตเด็ดจากตูดของเขา”

ผู้ชายที่โต๊ะอาหาร ซึ่งทุกคนรู้จัก แอรัมมานานหลายสิบปี

รู้ดีว่ากีฬาและการเมืองทำให้เขามีความกระตือรือร้นอยู่เสมอ เพื่อน ๆ ที่เล่าเรื่องของ แอรัมทุกครั้งที่จะล้อเลียนเสียงห้าวของเขา เรื่องราวเหล่านั้นส่วนใหญ่จบลงด้วยการที่ แอรัมสูญเสียความเท่ กับบทกลอนที่ทำให้เขากรีดร้องออกมาในรูปแบบต่าง ๆ ว่า “นี่มันอะไรกันเนี่ย–!?!”

พวกเขาเล่นชกมวยมาเกือบทั้งชีวิต นักชกมวยที่พูดว่า “เด็กสู้ได้” อาจเป็นคำชมสูงสุดที่พวกเขาสามารถให้ได้ พวกเขาพูดถึงความตื่นเต้นสำหรับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้น จากการอยู่ที่สนามกีฬาเวมบลีย์เพื่อชม ไทสัน ฟิวรี่ ซึ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งโดยท็อปแรงค์ ปกป้องการชกรุ่นเฮฟวี่เวทของเขาเมื่อวันที่ 23 เมษายน

นักมวย แอรัมชื่อฟิวรี่ เป็นนักพูดและโปรโมเตอร์ที่เก่งที่สุดตั้งแต่ อาลีชนะการต่อสู้นั้น เขาเคาะ ดิลเลียน ไวท์ ในรอบที่หกต่อหน้าแฟน ๆ ที่กรีดร้อง 94,000 คน (ถัดไปสำหรับอันดับสูงสุดคือพลังดาราของ ชาเคอร์ สตีเวนสัน กับ ออสการ์ วาลเดซ เมื่อวันที่ 30 เมษายน)

กลับมาทานอาหารเย็น พวกผู้ชายหัวเราะเยาะด้านไร้สาระของการชกมวย พวกเขาบอกเล่าเรื่องราวของคนตัดเชือกที่เสียชีวิตหลังจากมีอาการหัวใจวายระหว่างการต่อสู้ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา พวกเขาเห็นเขาทำงานอยู่ที่มุม พยายามไม่ให้นักมวยเลือดออกมากเกินไป

พวกเขาพูดถึงด้านมืดด้วย พวกเขาผ่านจุดจบที่ทำร้ายจิตใจมามากพอแล้วที่พวกเขาพยายามรักษาความสัมพันธ์กับนักมวยให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ บางครั้งพวกเขาก็ทำไม่ได้ บางครั้งพวกเขา — ผู้ชายที่โตแล้ว — ร้องไห้เหมือนเด็กทารกขณะดูนักมวยแก่ถูกทุบตี

เกมจบลง ดุ๊ก ชนะ. อารัมผ่อนคลายลงเล็กน้อย ถ้าปีศาจน้ำเงินไปถึงขนาดนั้น และถ้าตารางงานของเขาเอื้ออำนวย เขาจะไปหาโค้ชเพื่อนของเขาในรอบไฟนอลโฟร์ ต่างจากเครเซวสกี้ แอรัมยังไม่พร้อมที่จะเกษียณ เขายังคงรักการแสดง แอรัมกล่าว

มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะเดินออกไปเมื่อมีคนจ่ายเงินหลายพันดอลลาร์เพื่อดูการต่อสู้จากที่ที่เขานั่งฟรี “ใครคือซุปเปอร์สตาร์ที่คุณอยู่ข้าง ๆ คุณ” ผู้อุปถัมภ์เดินผ่านโต๊ะระหว่างทางออกจากร้านปิเอโร่ ถาม แอรัมเขากำลังถามเกี่ยวกับฮาร์มอน ที่ดูแปลกใจที่ใคร ๆ จะเรียกเขาแบบนั้น

แม้ว่าเขาจะชกครั้งล่าสุดเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ฮาร์มอนก็ยังคงรักษารูปร่างที่แข็งแรงไว้ได้ เขามีลักษณะหน้าตาของคนที่ทำเพื่อหาเลี้ยงชีพ ที่ไม่เคยหายไป คมครั้งหนึ่งที่ขมวดคิ้วและดวงตากลมโตจากการชกหลายครั้ง ข้อนิ้วบวมและแข็งกระด้าง บางครั้งก็ผิดรูป

“นั่นมันเดอร์ริกฮาร์มอน” อารัมพูด เลิกสนใจโทรทัศน์ “เขาต่อสู้กับรอย โจนส์ จูเนียร์ และเอาชนะเขาให้ได้” https://www.fudoshinkan.org