กระหึ่มวงการ วัน แชมเปียนชิพ เตรียมระเบิดศึกใหญ่ในวันพุธที่ 7 เมษายน 2564 นี้ ซึ่งจะออกอากาศในตอนไพรม์ไทม์ของสหรัฐอเมริกาทางช่อง TNT

กระหึ่มวงการ กางโปรแกรมคู่แรก เริ่มด้วยไฟต์ที่มีเข็มขัดแชมป์โลกเป็นเดิมพัน สำหรับในการป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก ONE รุ่น ฟลายเวต ข้อตกลงการต่อสู้แบบผสม (MMA) ระหว่างผู้ครอบครองบัลลังก์ “Mikinho” อาเดรียฯ โมราเอส จากบราซิล ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นแชมป์โลกผู้เด่นที่สุดในประวัติศาสตร์รุ่น ฟลายเวตของวันแชมเปียนชิพ

เขาปราบคู่แข่งชั้นหนึ่งมาเยอะแยะ อีกทั้งอดีตกาลแชมป์โลกโด่งดังจากฟิลิปปินส์ “Gravity” เจเฮ อุสตาคิโอ, อันดับ 2 ของแรงกิง “The King” ดินแดนนี คิงกาด และก็อดีตแชมป์โลกรุ่นนี้ที่ตอนนี้รั้งอยู่ในชั้น 3 ของแรงกิงอย่าง “The Kazakh” ไครัต อักห์เมทอฟ ผลมวยวันนี้

ซึ่งในเวลาที่ อาเดรียฯครองความยิ่งใหญ่อยู่ในทวีปเอเชีย ด้าน “Mighty Mouse” ดิมิเทรียส จอห์นสัน เจ้าตำนานการต่อสู้มีชื่อจากฝรั่งอเมริกาเหนือ ก็ได้เดินทางมาถึง แชมเปียนชิพ โดยมีเข็มขัดแชมป์โลก ONE ซึ่ง ครอบครองอยู่เป็นเป้าหมาย

ดิมิเทรียส จอห์นสัน หรือที่ทุกคนเรียกสั้นๆว่า “ดีเจ” ปัดกวาดความมีชัย 3 ไฟต์ต่อเนื่องอย่างเร็วในวันแชมเปียนชิพ ด้วยเวลาไม่ถึง 7 กับคว้าแชมป์โลก ONE เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่น ฟลายเวต ไปครอบครอง ก่อนที่จะสบโอกาสชิงบัลลังก์กับ ในศึกนี้

คู่ต่อมา อีกหนึ่งเจ้าตำนานจากอเมริกาเหนือ “The Underground King” เอ็ดดี จะขึ้นชกสร้างความสั่นสะเทือนให้กับรุ่นไลต์เวต โดยก่อนหน้านี้ เอ็ดดี มาเปิดตัวหนแรกแล้วก็ลงจากเวทีด้วยความชอกช้ำระกำใจเมื่อมีนาคม 2561 ก่อนที่จะกลับมาโชว์ฟอร์มเดือดปิดเกมด้วยการดูดซับไม่ชชันนักสู้ขวัญใจชาวฟิลิปปินส์ “Landslide” เอมองอาร์ด โฟลายัง ในอีก 4เดือนต่อมา

กระหึ่มวงการ

ไฟต์นี้ เอ็ดดี จะได้เจอหน้าคู่แข่งขันหนุ่มสุดอันตรายจากมอลโดวาซึ่งเคยครองสถิติไม่มีพ่ายยาวนานถึง 14 ไฟต์อย่าง “ยูรีลาปิคัส” ที่ปัจจุบันนี้รั้งชั้น 2 ของแรงกิงในรุ่นนี้

แล้วก็คู่ที่ทำให้ชาวไทยหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เป็นการปรากฏตัวของนักต่อยไทยขวัญใจสายบู๊ “The Iron Man” รถถัง จิตรเมืองความรื่นเริง แชมป์โลก ONE มวยไทย ผู้ครอบครองฟอร์ม 8 ไฟต์ไม่มีพ่ายแพ้รวมทั้งมีลีลาการออกอาวุธสุดตื่นเต้นตื่นเต้น

กระหึ่มวงการ

งานนี้ จะขึ้นชกในศึกมวยไทยซูเปอร์ไฟต์กับนักต่อยชายหนุ่มเลือดเดือดชาวอังกฤษ “เจค็อบ สมิธ” ซึ่งเป็นจอมบู๊สู้ไม่ถอย ซึ่งนี่นับว่าเป็นบันไดอีกขั้นสำหรับ ที่จะได้โชว์ศักยภาพแม่ไม้มวยไทย และก็เป็นจังหวะในการสร้างชื่อ รวมทั้งขยายฐานแฟนๆไปสู่แฟนๆคนประเทศอเมริกาที่มีมากกว่า 300 ล้านคนทั้งประเทศ ไร้เงาบนสังเวียน

“อาเดรียโนโมราเอส” เดินทางมากมายไกลกว่าจะมาถึงจุดนี้กับการเป็นแชมป์โลก ONE เขากำเนิดและก็เติบโตในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าที่บราซิล แม้กระนั้นชีวิตเขาก็แปรไปตลอดกาลเมื่อได้รับการค้ำจุนจากม่าม้าเลี้ยงลำพังที่ขอเขาไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม ซึ่งเป็นการให้โอกาสให้กับเขาได้ประสบความสำเร็จในชีวิต และก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะทำให้แม่บุญธรรมได้ภาคภูมิใจ

เขาเริ่มทางศิลป์การต่อสู้เมื่ออายุ 7 ขวบ หลังจากที่แม่บุญธรรมดาตกลงใจพาเขาไปสมัครเข้าเรียนยูโด ต่อจากนั้นเขาก็เรียนรู้ศาสตร์การต่อสู้ของบราซิล “กาโปเอย์รา” อย่างเร็ว เมื่อเขาจำต้องเข้าไปเกี่ยวเนื่องกับสิ่งแวดล้อมที่อันตราย เขาก็เลยตกลงใจฝึกฝนบราซิลเลียนยิวยิตสูเพื่อป้องกันตัว

ซึ่งโน่นเป็นจุดเริ่มต่อแรงปรารถนาในการพิสูจน์พรสวรรค์ของตนเอง เขาสร้างชื่อในทัวร์นาเมนต์การจับล็อก (grappling) กับคว้าสายดำมาครอบครอง ถัดมาในปี 2011 เขาตกลงใจทดลองความชำนาญในศิลป์การต่อสู้แบบผสม แล้วก็คว้าชัยชนะ 9 ไฟต์รวด ก่อนคว้าแชมป์ในประเทศมาครอบครอง

ความสำเร็จดังกล่าวถูกเอามาต่อยอดในศึก แชมเปียนชิพ ด้วยชัย 5 ไฟต์รวมทั้งการชิงแชมป์และก็ป้องกันแชมป์ ONE รุ่น ฟลายเวต หนแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนที่จะสูญเสียแชมป์และก็กลับมาเป็นแชมป์อีกรอบภายหลังจากชัยครั้งปัจจุบันเหนือ “เจเฮ อุสตาคิโอ” ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งที่ 3 ของทั้งสอง

ดีเจ จะต้องปะทะกับผู้แทนจากกลุ่มลาไคย์อย่าง คิงกาด ที่มีทั้งยังความชายหนุ่มรวมทั้งหิวชัย แต่ว่าท้ายที่สุดเขาก็โชว์ฟอร์มเหนือชั้นขั้นกว่าใน “บ้านที่ศิลป์การต่อสู้” แชมเปียนชิพ

เขาได้รับบาดเจ็บมาบ้างในสองรอบก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แม้กระนั้นเมื่อเดินหน้ามาถึงรอบชิงแชมป์ นักจัดรายการวิทยุ ทำให้เห็นว่าเพราะเหตุไรผู้คนถึงเล่าขานว่าเขาเป็นถึงระดับ “ตำนาน” ซึ่งมิได้มาโดยง่าย และก็ฟอร์มการแข่งขันชิงชัยในคืนนั้นก็สุดชื่นชอบ ภายหลังจากสยบนักสู้ชายหนุ่มชาวฟิลิปปินส์ได้อย่างอยู่มือ

“มันเป็นไฟต์ที่ยอดเยี่ยมมากมาย ดินแดนนี คิงกาด รวมทั้งนักสู้จากกลุ่มลาไคย์เอาชีวิตรอดได้อย่างยอดเยี่ยม ตอนที่คุณรู้สึกว่าคุณอยู่ในตำแหน่งที่ทำดูดซึมไม่ชชันได้แน่นอนแต่ว่าพวกเขาก็จะหาจังหวะเอาชีวิตรอดได้ตลอด”

“เมื่อพวกเราเข้าปล้ำกัน ผมอุตสาหะที่จะใช้ท่าคิมูระ แล้วก็เขาก็เอาชีวิตรอด เพียงพอเขาใช้ท่าคิมูระกับผมบ้าง มันก็โอเคนะ ด้วยเหตุว่าผมจะดูดซึมไม่ชชันเขาด้วยท่าอาร์มบาร์ แต่ว่าเขาก็ดิ้นหลุดไปได้อีก แล้วเมื่อผมจะใช้ท่ากิโยติน เขาก็ยังรอดไปได้ เขาดิ้นเก่งเหมือนกับปลา”

ตั้งแต่แมื่อมีการประกาศชิงชัยทัวร์นาเมนต์นี้เมื่อพฤศจิกายนปีที่ล่วงเลยไป ผู้ที่มาร่วมแข่งขันทุกคนก็รู้ดีว่าแม้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง มันอาจไม่ใช่แค่สายรัดเอวแชมป์แวววับเส้นใหม่ที่คอยพวกเขาอยู่ แต่ว่าโน่นหมายความว่าจังหวะในการดวลกับแชมป์โลกของรุ่นนี้อย่าง “อาเดรียโนโมราเอส”

“แน่ๆว่าจุดหมายถัดไปก็คือการล้มแชมป์โมราเอส นักสู้ผู้ทรหด จอมแข็งของรุ่น ฟลายเวต รวมทั้งเป็นนักปลุกปล้ำจับล็อกผู้เก่งกล้า ฉะนั้นผมก็เลยต้องกลับไปอยู่บ้านก่อน ไปศึกษาว่าข้อเสียของเขามีอะไรบ้าง แล้วก็ค่อยมาเดินหน้ากันถัดไป”

“พวกเราจึงควรกลับไปสู้กันแบบ 5 ชู ซึ่งผมมีความคิดว่าผมสามารถทำเป็นดียิ่งกว่านี้ ผมยังมีเวลาสำหรับการปรับตัวรวมทั้งศึกษาเล่าเรียนคู่ปรับ ผมอาจจะจำเป็นต้องให้เวลาตนเองได้พักบ้าง แล้วก็ถ้าว่าผมสามารถเลือกได้ ผมก็อยากได้ที่จะขึ้นเวทีในตอนกุมภาพันธ์หรือมีนาคมปีถัดไป ผมจะให้ร่างกายของผมได้ผ่อนคลาย ทำร่างกายให้แข็งแรง แล้วค่อยกลับมาฝึกซ้อมกันใหม่”